ทำไมถึงไม่บวชล่ะ รู้มากขนาดนี้


                   จำเป็นมากหรือ ที่รู้พระธรรม ศึกษาธรรมแล้วต้องบวช บางท่านรู้ได้โดยการฟัง บางท่านรู้ได้โดยการอ่าน บางท่านรู้ได้โดยการปฏิบัติ ตามแนวทางมหาสติปัฏฐานสี่ ประกอบด้วย
           กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เรียกโดยย่อว่า     กาย
           เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน เรียกโดยย่อว่า   เวทนา
           จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน  เรียกโดยย่อว่า   จิต
           ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน  เรียกโดยย่อว่า    ธรรม

อะไรคือ กาย หรือ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
       
           สิ่งที่เรียกว่ากาย คือ ร่างกายที่เราท่านจับต้องได้ เคลื่อนไหวได้ คือ กายนอก ส่วนกายในกาย ก็คือ สิ่งที่เกี่ยวกับกายนอก หากขาดสิ่งนี้ เราท่านก็ไม่อาจดำรงชีพอยู่ได้ก็คือ ลมหายใจ เช่นเดียวกับกายนอก คือ จับต้องได้ หรือ สัมผัสได้ เคลื่อนไหวได้ สิ่งใดที่เรียกว่าจับต้องได้ หรือสัมผัสได้ ลองเอามือไปอังที่ปลายจมูกก็จะสัมผัสกับลมอุ่นๆที่ถ่ายเทออกมาจากร่างกายของเรา และถ้าลมไม่มีการเคลื่อนไหว เราจะมีชีวิตอยู่รอดได้อย่างไร สิ่งใดที่เกี่ยวกับกับร่างกาย แขน ขา หลัง ไหล่ การเดิน การนั่ง ยืน หรือนอน ก็ต้องอาศัยกาย ก็เป็นส่วนหนึ่งของกาย แม้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาพการใช้งาน การสูญเสียอวัยวะ การเห็นสิ่งที่ไม่งาม ไม่น่าดู (อสุภ) ก็เป็นกายเช่นเดียวกัน

อะไรคือ เวทนา หรือ เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน

        ความรู้ ส่วนประกอบที่เกี่ยวเนื่องกับกาย แต่เป็นการเกี่ยวเนื่องด้วยธัมมารมณ์ รู้สึกได้ด้วยใจ แม้บางอย่างมีสาเหตุมาจากกาย หรือ บางส่วนมาจากความนึดคิด บางส่วนมาจากสิ่งที่เราเข้าไปยึดครองว่าเป็นบุคคล ตัว ตน เรา เขา การเจ็บป่วย ไม่สบายกายไม่สบายใจ การวิตกกังวลตามอารมณ์ต่างๆที่เข้ามาประทบกับใจโดยตรง ทั้งมาในรูปของมีความสุข หรือ สุขเวทนา    ความทุกข์  หรือ ทุกขเวทนา เฉยๆสบายๆ อทุกขมเวทนา การยินดี พอใจ ไม่พอใจ ไม่ต้องการ หรือ ต้องการ อยากได้ใคร่มี ก็เป็นเวทนาทั้งสิ้น

อะไรคือ จิต หรือ จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน

               สิ่งที่จิตคิด อารมณ์ของจิต จิตปรุงแต่ง จิตสร้างมโนภาพ ที่สามารถพัฒนา หรือ ต่อยอดให้ความคิดกลายเป็นความทุกข์ ก็อาศัยจิตเป็นตัวชักพา การเข้าใจธรรมชาติของจิต เราจะรู้ว่า จิตนั้นมีสภาพไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ซนเหมือนลิง ไต่เหมือนปู ดุร้ายอย่างเสือ สงบนิ่งอย่างขุนเขา ล้วยแล้วแต่เป็นการโชว์ของจิตทั้งสิ้น  การเข้าไปรู้ ว่าจิตกำลังคิด  กำลังฟุ้ง กำลังหวั่นไหว ก็เพื่อให้รู้ทันอาการของจิตที่กำลังแสดงออกมาในรูปแบบของความคิด จิตมีความโลภ ก็รู้ว่าจิตมีความโลภ เป็นอาทิ ไม่ได้เข้าไปห้ามไม่ให้จิตคิด หรือ อยู่นิ่ง เป็นการตามรู้จิตมันทำงานอะไร แสดงอะไรออกมา


อะไรคือ ธรรม หรือ ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

                 พระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อนำคำสั่งสอนของพระองค์มาพิจารณาอย่าง โยนิโสมนสิการ คือ คิดพิจารณาให้รอบครอบ เป็นเหตุ เป็นผล ไม่ยึดเอาคติ หรือ ความคิดเห็นของตนเป็นหลัก พระองค์สอนไว้ว่า พระองค์สอนให้รู้จักทุกข์ รู้จักที่มาของทุกข์ ทำอย่างไรที่จะก้าวพ้นความทุกข์ ในอริยสัจไปได้ พระองค์ไม่ได้สอนให้ไปสแกนกรรม ไม่ได้สอนให้ไปเสดาะห์เคราะห์ต่อชะตา ไม่ให้เชื่อศีลพรตที่ไม่ก่อเกิดประโยชน์  ไม่ให้เชื่อว่าการประกอบพิธรกรรมใดๆจะสามารถทำให้เราหลุดพ้นไปได้ มีแต่การปฏิบัติ การภาวนา ให้รู้แจ้งตามความเป็นจริง ว่าทุกสิ่งที่การพลัดพรากเป็นธรรมดา มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัย ทำกรรมใดไว้ ดีหรือชั่ว จักได้รับผลของกรรมนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับพระพรหมมาบันดาลให้เกิด แม้แต่พระพรหมก็ตกอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมเช่นเดียวกัน ธรรมก็คือธรรมชาติดีๆนี่เอง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

กฏกติกามารยาทของพระสงฆ์ ที่เรียกว่า ศีล 227

ปฏิทินลวงโลก

วิธีจุดไฟแบบอัจฉริยะ